วันอังคารที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2560

วิธีวัดผลค่า KPI แคมเปญ Facebook





การทำแผนการตลาด ปัจจัยสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่าค่า ROI คือ ค่า KPI การวัดผล เพราะคงไม่มีใครที่อยากจะให้เราเอาเงินไปถลุงเล่นๆ โดยที่ไม่สามารถวัดอะไรได้ ในการทำแผน Online Marketing ก็เช่นกัน การจะทำโฆษณาทำแคมเปญต่างๆ บน Facebook หรือ Google Ad word เองก็ต้องสามารถวัดผลได้ ว่าสิ่งที่ทำไป เราได้รับ Conversion อะไรกลับมา 
 
ในการซื้อโฆษณาเราย่อมหวังผลให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “Conversion” เช่น การซื้อสินค้า, การสมัครสมาชิก, การลงทะเบียน เป็นต้น ในบทความนี่เราจะมาอธิบายขั้นตอนการกำหนด Conversion เพื่อวัดค่า KPI คำถามที่น่าคิดกันต่อไปก็คือ เราควรจะวัดผลแคมเปญการตลาดต่างๆ ของเราบน Facebook แบบใดจึงจะเหมาะสม?

ส่วนใหญ่จากที่ผ่านๆมา หลายคนมักจะตั้งการวัดผล KPI เป็นจำนวนยอด Like และค่า CTR หรือพวกค่า People Talking About This (เมื่อแฟนเพจแชร์โพสต์ของเพจออกไป มีตัวเลข Likes, Comments หรือ Re-shares นับเป็นจำนวนเท่าไร) การปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพจกับผู้ใช้แต่ในความเป็นจริงแล้วเรากลับคิดว่า Talking About This เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างที่จะเอามาวัดผลอะไรค่อนข้างยาก มันจะพิศวงอยู่หน่อยๆ แถมมีข้อมูลบางอย่างที่อาจจะทำให้กลายเป็นปัญหาของการตีความและวิเคราะห์อยู่พอสมควร มันไม่เสมอไปที่การมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเพจกับผู้ใช้ จะหมายถึงว่าผู้ใช้จะเกิดปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ได้ 100% เพราะสิ่งที่คนปฏิสัมพันธ์นั้น ไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับตัวแบรนด์ หรือตัวสินค้า หากแต่เป็นตัวคอนเทนต์ในแต่ละโพสต์ ซึ่งตรงนี้อาจจะเป็นช่องโว่ในการวัดค่า KPI 

นักการตลาดมักจะคุ้นชินกับการวัดค่า KPI เป็นตัวเลข รายงานด้วย metrics เชิงปริมาณ หยิบจับตัวเลขต่างๆ นานาๆ มาใส่ ไม่ว่าจะเป็น จำนวน Like, จำนวน comment, จำนวน share, จำนวน Reach แอบสงสัยนิดหนึ่งว่าจริงๆ แล้วตัวเลขพวกนั้นมันอาจจะไม่ได้บอกอะไรเราเลยก็ได้

มีความเห็นหนึ่งที่เราได้ไปอ่านเจอมา และทำให้พบนิพพานว่า เออจริงๆ แล้วการวัดผลจาก Facebook มันควรจะทำในเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ

ตัวอย่างเช่น  คุณตั้งวัตถุประสงค์การทำแคมเปญเพื่อเพิ่มยอดขาย การวัดผลทำได้โดยการใช้ Facebook Conversions โดยการตั้งค่า Conversions โดยเลือกไปที่หัวข้อ Website Conversions  ใส่ลิ้งก์เพื่อส่งลูกค้าตรงไปที่เว็บไซต์ E-commerce ของคุณ คุณจะเห็นได้ว่ามีลูกค้ากี่คนที่แวะชมร้านค้าออนไลน์ของคุณผ่าน Facebook กี่คน

จะตั้งแคมเปญกิจกรรม โปรโมทประชาสัมพันธ์ Event หรือโปรโมชั่น จะวัดผลจาก Like, comment, share คงจะวัดผลไม่ได้ว่าจะมีคนเข้าร่วมกิจกรรมจริงๆ แล้วกี่คน แต่ถ้าหากเปลี่ยนการวัดแบบเดิม ก็วัดผลกันไปเลยผ่านทาง Event ว่ามีคนคลิก “going/ Maybe/not going” กี่คน หรือมีคนดาวน์โหลดคูปองผ่านแอพฯ กี่คน

หากใครสนใจในแง่ตัวเลขอย่างเดียวแล้วจะกลายเป็นการหวังผลเชิงประชาสัมพันธ์เป็นหลักแทน มากสะกว่าการวัดผลความสำเร็จของแคมเปญ สำหรับใครที่สนใจสร้างเพจแต่ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง หรืออยากจะโฆษณาเฟสบุ๊ค โปรโมทเพจ โปรโมทโพสต์ หรือกำลังหาบริษัทรับโฆษณาแฟนเพจ Marketing Bangkok เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่เราขอแนะนำ Marketing Bangkok มีทีมงานที่ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ทั้งทางด้านการออกแบบ การโปรแกรมมิ่งและการตลาด มีความมุ่งมั่น ทุ่มเทโดยมีเป้าหมายคือ ความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าในทุกบริการของเรา สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจของลูกค้ารวมถึงสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนสูงสุดให้กับลูกค้าอีกด้วย

(ขอบคุณข้อมูลจาก jakrapong/ http://thumbsup.in.th)

วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

โคตรเทคนิค เขียนบทความ SEO




เขียนบทความ SEO อย่างไร ให้โดนใจกูเกิ้ล ถูกใจผู้อ่าน วันนี้จะมาแนะนำวิธีการเขียนบทความสำหรับการทำ SEO ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจหลักที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดหน้าหนึ่งกูเกิ้ล จากเท่าที่ได้ทำการศึกษาหลักการทำงานของกูเกิ้ลแล้ว กูเกิ้ลจะมีอัลกอลิทึมอยู่สองแบบที่เรียกกันว่า แพนด้าและแพนกวิน เจ้าอัลกอลิทึมทั้งสองนี้ถูกออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลและเลือกบทความที่ดีให้ขึ้นอันดับในหน้าแรกๆ โดยจะเลือกจากเนื้อหาที่เขียนให้ผู้อ่านโดยตรง มีประโยนช์กับผู้อ่าน และที่สำคัญบทความความนี้ต้องไม่ถูกก๊อปปี้หรือเคยลงให้เว็บไซต์ไหนมาก่อน ซึ่งถ้าบทความไหนที่ก๊อปปี้มากูเกิ้ลก็จะให้สิทธิต้นฉบับขึ้นอันดับที่ดีกว่าเสมอ แนะนำว่าหากใครที่คิดจะก๊อปปี้ควรทำการอ่านแล้วรีไรท์ใหม่จะดีที่สุด มาเข้าประเด็นเรื่องการเขียนบทความกันเลยดีกว่า มาเริ่มวางโครงสร้างบทความสำหรับทำ SEO กันเลยดีกว่า สรุปออกมาเป็น 4 ข้อง่ายๆ ดังนี้ค่ะ

1. ตั้งชื่อบทความยังไงให้ปัง
ข้อแรกคือ การตั้งชื่อ ตั้งอย่างไรให้ปัง ให้ดึงความสนใจและให้ถูกใจกูเกิ้ล เคล็ดลับคือ ให้ Keyword นั้นปรากฏให้คำแรกของชื่อบทความ หรือมี Keyword อยู่ในชื่อด้วย เช่น Keyword ที่ต้องการให้ติดอันดับ คือคำว่า รับทำ SEO ควรตั้งชื่อ รับทำ SEO ติดอันดับ TOP 10 เป็นต้น ซึ่งซื่อที่ตั้งต้องไม่ซ้ำกับบทความอื่น ในชื่อเรื่องไม่ควรใส่ครีย์เวิร์คมากกว่า 2 คำ เพราะจะดูเป็นการจงใจ เป็นสแปมคีรย์เวิร์ด อาจจะโดนกูเกิ้ลเล่นงานได้

2. เนื้อหาบทความที่เขียนต้องมี  Keyword
เอาง่ายๆ เลยต้องการเล่น Keyword อะไรก็เขียนบทความเกี่ยวกับคีรย์เวิร์คนั้น เรื่องที่เขียนต้องสอดคล้องกับคีรย์เวิร์ดด้วย และที่สำคัญในหนึ่งบทความควรมีความยาวตั้งแต่ 300 เวิร์ดขึ้นไป ควรจะกระจายคีรย์เวิร์คอยู่ในแต่ละย่อหน้า ไม่ควรใส่คีรย์เวิร์ดอัดกันมากเกินไป คำแนะนำส่วนใหญ่บอกว่า Keyword density ไม่ควรเกิน 2.5% ของปริมาณ Text
เขียนบทความโดยนึกถึงใจผู้อ่าน คิดในมุมมองของผู้ที่อ่านบทความนี้ว่าอะไรเป็นสิ่งที่เขาสนใจ เขียนโดยนึกถึงใจ User เป็นหลัก เน้นการให้เนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์จริงๆ ที่สำคัญอย่างที่บอกข้างต้น บทความต้องสดใหม่ No Copy 

3. ใส่ภาพ อธิบาย ช่วยดึงความสนใจ
นึกถึงใจผู้อ่าน กูเกิ้ลชอบอะไรที่เป็นธรรมชาติ เขียนบทความมีแต่ตัวหนังสือ ร้อยทั้งร้อยถ้าบทความนั้นไม่ดีจริง อ่านได้นิดเดียวกับเบื่อแล้ว แต่ถ้ามีภาพประกอบอาจจะช่วยให้ผู้อ่านรู้สึกสบายตามากขึ้นดูไม่น่าเบื่อ ผู้อ่านชอบกูเกิ้ลก็ชอบเช่นกัน

4. จัดเรียงเนื้อหาให้อ่านง่าย สบายตา
การเขียนบทความจริงๆ แล้วควรแบ่งส่วนโครงสร้างเนื้อหา ย่อหน้าแรกอาจจะเกริ่นนำ ซึ่งการเกริ่นนำต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับตัวบทความเกริ่นด้วยรวมของเนื้อหาบทความ ย่อหน้านี้ควรมีเนื้อหาประมาณ 30% ของเนื้อหาบทความ ย่อหน้าที่ 2เป็นส่วนของเนื้อหา ประมาณ 60% ของเนื้อหาบทความ ย่อหน้าสุดท้าย ควรเป็นส่วนของสรุป ประมาณ 10% ของบทความ ส่วนสรุปนี้อาจจะมีการใส่ลิ้งค์แนะนำอ่านต่อบทความอื่นหรือลิ้งค์เพื่อเข้าสู่หน้าเว็บไซต์สำหรับผู้ที่สนใจอยากศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการเรียกทราฟฟิกให้กับเว็บไซต์ด้วย 

ทั้งนี้ ทั้งนั้น การทำ SEO ยังขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น no page, เว็บไซต์, การเลือกคีรย์เวิร์ด ซึ่งทั้งหมดมีผลกับการอันดับบนกูเกิ้ลทั้งหมด ในส่วนของบทความสรุปง่ายๆ เป็น 4 ข้อที่กล่าวมา การทำแบบนี้จะช่วยดันอันดับบทความของเรา ให้ขึ้นหน้าแรกได้ อ่านจบบทความนี้แล้วใครที่คิดจะลองเขียนบทความสักชิ้น อย่าลืมเอา 4 ข้อนี้ไปลองใช้กันดูนะค่ะ และส่วนใครอ่านมาถึงจุดนี้แล้วเช็คลิสต์ดูแล้วก็ทำมาแล้วทุกข้อ แต่ทำไม๊ทำไมอันดับถึงไม่ขยับเขยือน แนะนำว่าลองเช็คในส่วนของ on page หรือปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย การทำ SEO มีปัจจัยค่อนข้างเยอะและซับซ้อน หากคุณไม่มีเวลาทำที่มากพอผลที่ได้อาจจะมองเห็นช้าสักหน่อยแนะนำว่า ลองหา บริษัทรับทำSEO มารับหน้าที่แทนจะดีกว่า 

ขอบคุณข้อมูลจาก Marketing Bangkok

วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

ทำไมต้องทำ SEO?




ก่อนอื่นเลย หลายคนยังไม่รู้เลยว่า SEO ไอ้ตัวอักษร 3 ตัวนี่มาจากอะไร แล้วมันคืออะไร SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization คือ การปรับปรุง ปรับแต่ง หน้าเว็บไซต์และการออกแบบโครงสร้างเว็บไซต์ เพื่อให้เหมาะสมกับ Search Engine ต่างๆ เพื่อทำอันดับให้เว็บไซต์ถูกแสดงผลในอันดับต้นๆ ของ Search Engine ต่างๆ เช่น Google, Bing, Yahoo

ลองนึกภาพสองธุรกิจในช่องเดียวกัน การขายผลิตภัณฑ์ที่คล้ายคลึงกันในราคาที่ใกล้เคียงกัน หนึ่งในนั้นมีเครื่องมือค้นหาที่ดีและทำอันดับเว็บไซต์ในหน้าของกูเกิ้ลได้ดี อันอีกเว็บหนึ่งมีสถานะไม่ติดอันดับในหน้าของกูเกิ้ล คุณคิดว่าใครจะประสบความสำเร็จมากกว่ากัน

ถ้าเว็บไซต์ของเราติดอันดับหน้าแรกของการค้นหาก็จะเพิ่มโอกาสใรการเข้าชม Website มากขึ้น การทำ SEO ยังทำให้ได้ลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าเป็นการทำโฆษณา Google AdWords จะเสียเงินเมื่อมีการคลิกเกิดขึ้น แต่การทำ SEO ไม่มีค่าใช้จ่าย เป็นการได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายแบบออแกนิก มีผลต่อความเชื่อมั่นของลูกค้ามากกว่า การทำ Google AdWords

ทำไม ? การทำ SEO ถึงจำเป็นต่อเว็บไซต์
คนค้นหาข้อมูลทั้งสินค้าและบริการส่วนใหญ่จะมาจากทาง Google แทบทั้งนั้น และ Google ก็อยู่ในชีวิตประจำวันของใครๆหลายๆ คนไปเรียบร้อยแล้ว ถึงกับว่าเป็นอาจารย์คนหนึ่งเลยก็ว่าได้ จะหาอะไรก็ไปถามกูเกิล ฉะนั้นถ้าอยากให้มีคนเข้าเว็บไซต์เรามากๆ เราจะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ดี ให้ติดอันดับ Google แล้วจะมีลูกค้าหน้าใหม่ๆ รวมทั้งลูกค้าเก่าๆแวะเวียนมาที่หน้าเว็บไซต์ของเราไม่ขาดสาย

ถ้าสนใจทำ SEO ควรทำยังไง
คุณสามารถทำ SEO ด้วยตัวเองได้หากธุรกิจของคุณเป็นธุรกิจขนาดเล็กและมีเวลามากพอที่จะทำความเข้าใจเพราะเนื่องจากขั้นตอนทำ SEO ค่อนข้างจะซับซ้อนและมีรายละเอียดค่อนข้างเยอะ คุณอาจจะเริ่มจากการเรียนรู้ฟรี ผ่านทางสื่ออินเตอร์เน็ต  ซื้อหนังสือมาอ่าน และอาจจะเข้า Workshop หรือคุณสามารถจ้างบริษัทรับทำ SEO ได้ โดยจะมีราคาแตกต่างกันไปตามความยากง่ายตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น  การจ้างทำ SEO เหมาะกับธุรกิจที่มีเงินลงทุน, ไม่มีเวลา, ไม่มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ โดยควรพิจารณาผลงานเป็นสำคัญจากผู้บริการที่น่าเชื่อถือ

หากท่านใดที่สนใจทำ SEO และกำลังมองหาบรัทรับทำ SEO เราขอแนะนำ MarketingBangkok มีเดียเอเจนซี่ที่รับทำการตลาดทางด้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น รับทำ SEO ที่วิเคราะห์และวางแผนการทำอันดับในกูเกิลอย่างละเอียด ต้นแต่การตรวจสอบเว็บไวต์ว่า เว็บไซต์ของคุณเหมาะสมและพร้อมกับการทำ SEO หรือไม่ ถ้าเว็บไซต์ยังไม่พร้อม มีบริการรับปรุง